เรื่อง นโยบายการบริหารงาน โดยนายอภิชาต จงสกุล ประธานกรรมการ อ.ส.ค.
เรียน ผู้บริหาร อ.ส.ค.และพนักงาน อ.ส.ค. ทุกท่าน

              ด้วยในปี 2558 ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ดังนั้นเพื่อเตรียม ความพร้อมของ อ.ส.ค. จึงขอแถลงทิศทางนโยบายการดำเนินงาน เพื่อให้การดำเนินงาน อ.ส.ค.เป็นไปด้วย ความราบรื่นและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในฐานะ อ.ส.ค.เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายต่อการดำเนินการด้านอุตสาหกรรมนมมาหลายรูปแบบ จึงให้ อ.ส.ค. ดำเนินนโยบายบริหารงานโดยหลักการดังนี้
1. มีความยืดหยุ่นให้ทันต่อพลวัตสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของ อ.ส.ค. ให้เติบโตเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำ
2. การดำเนินงานของ อ.ส.ค. ควรเน้นการพิจารณาเป็นภาพรวมทั้งต้นน้ำ(ส่งเสริม) โดย ฝ่ายส่งเสริมการเลี้ยงโคนมดำเนินภารกิจด้านการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมมากขึ้น สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต้นน้ำ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยุทธศาสตร์แห่งการพัฒนาประเทศ และแนวนโยบายหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมุ่งเสริมสร้างความมั่นคงทางอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้ยั่งยืน มีการพัฒนางานวิจัยอย่างต่อเนื่องและอยู่ในระดับที่เชื่อถือได้ตามหลักเกณฑ์ของงานวิจัย พร้อมทั้งมีการ บูรณาการงานวิจัย เผยแพร่องค์ความรู้ให้กับเกษตรผู้เลี้ยงโคนมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรผู้เลี้ยงโคนมมีขีดความสามารถเพิ่มสูงขึ้น จากการพัฒนากระบวนการด้านการผลิตน้ำนมดิบที่มีประสิทธิภาพ และบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างเป็นระบบในเชิงธุรกิจ พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางด้านการเผยแพร่ข้อมูลและการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเลี้ยงโคนมภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียนที่เป็นที่ยอมรับ และกลางน้ำ (การผลิต) โดยสำนักงาน อ.ส.ค.ภาคทุกภาค และ ปลายน้ำ (การจำหน่าย) โดยฝ่ายการตลาดและการขาย ประมาณการบริโภคนมรายพื้นที่ และร่วมกันวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกัน รวมทั้งประสานส่วนส่งเสริมดำเนินการขยายพื้นที่การเลี้ยงโคนม เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนมดิบเข้าโรงงานนม โดยให้ความรู้แก่เกษตรกร หาแนวทางช่วยเหลือด้านวิชาการและให้ความรู้ด้านต่างๆ และหวังจะเห็นการดำเนินกิจการของ อ.ส.ค. มีความเข้มแข็ง และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์ของ อ.ส.ค. อย่างยั่งยืนในการบริโภคผลิตภัณฑ์ภายใต้ยี่ห้อ นมไทย-เดนมาร์ค สัญลักษณ์ (นมวัวแดง) ผลิตจากนมโคสดแท้ 100 % ให้มีความมั่นคงในระยะยาวสิ่งที่ควรจะเปลี่ยนแปลง อ.ส.ค. จะนิ่งอยู่เฉยไม่ได้ เพราะการนิ่งอยู่เฉยท่ามกลางกระแสการแข่งขันอาจทำให้เรา ไม่สามารถเติบโตได้ ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรเร่งปรับตัวมุ่งไปข้างหน้าแสวงหาการพัฒนา และเตรียมรองรับกับความผันผวนที่จะเข้ามาปะทะในอนาคต เราจะไม่ได้นิ่งนอนใจ ต้องมีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ และพร้อมยื่นมือประสานทำงานร่วมกับทุกฝ่ายทำงานกันเป็นทีม มีความสามัคคีกัน เพื่อให้เศรษฐกิจของ อ.ส.ค.เติบโตตามศักยภาพอย่างต่อเนื่อง

/ผมขอเรียนว่า…..

ผมขอเรียนว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน (Transitional gateway) เข้าสู่ โลกยุคใหม่ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีโฉมหน้าเป็นอย่างไร ความยืดเยื้อของปัญหาในประเทศอุตสาหกรรม-นม อย่างไรก็ดี อ.ส.ค.ไม่ควรชะล่าใจ เพราะความผันผวนจากวิกฤตโลกตะวันตกที่ส่งผ่านช่องทางการค้าระหว่างประเทศมีอยู่เป็นระยะ แต่ความแรงจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการเตรียมพร้อมรับมือเป็นสำคัญ
การเปลี่ยนผ่านในภาคต่างประเทศที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือที่เรียกกันว่า ASEAN Economic Community หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งมีความหมายไม่เพียงแต่ การปรับตัวทางการค้าการลงทุน แต่เป็นการปรับตัวในเชิงทัศนคติ คือ ทัศนคติของความเป็นพลเมืองอาเซียน โดยการคบค้าสมาคมไปมาหาสู่กันมากขึ้น ทั้งนี้ AEC เพื่อเป็นจุดต่อยอดในการสร้างความแข็งแกร่ง ทางเศรษฐกิจ เพื่อให้อ.ส.ค. รุกตลาดเอเชียได้ อ.ส.ค. จำเป็นต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเน้นการดำเนินงานและแผนการตลาดใหม่ๆ ต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยได้มาตรฐาน และมีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มอำนาจในการแข่งขัน มุ่งเน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในแบรนด์ อ.ส.ค.ผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ให้มากขึ้นรวมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดโปรโมชั่น ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้และจดจำ ตราสินค้า เพิ่มศูนย์กระจายสินค้าให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องและเพียงพอ และบูรณาการบริหารจัดการระหว่างทุกโรงงานนมของ อ.ส.ค. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น ลดการสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรการผลิต และเพื่อสร้างการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ และการสร้างธรรมาภิบาลในกลไกภาครัฐ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ในการสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ แม้จะมีอุปสรรคเฉพาะหน้าที่เปลี่ยนไป แต่ความท้าทายโดยรวมยังคงอยู่ ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรมีการปรับตัว โดยกำหนดกรอบแนวคิดและแผนงาน (Policy space) ที่จะสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ของ อ.ส.ค. ก้าวข้ามช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น การดำเนินนโยบายด้านการลงทุนที่เสริมศักยภาพในการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างความเข้มแข็งขององค์กร การหาลู่ทางเปิดตลาดใหม่ การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตผลิตภัณฑ์ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ และการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้พร้อมรับกับความ ท้าทายใหม่ๆ ที่จะเข้ามา นอกจากนี้ ผมเห็นว่าควรเร่งเสริมความรู้ โดยการจัดอบรมพนักงานและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความซับซ้อนและความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ และทางการเงินให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนโดยรวม ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมนมไทย และการพัฒนาองค์กรภายในให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และการพัฒนาระบบการเงินให้มีประสิทธิภาพ จะเป็นปัจจัยที่ทำการดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม (Inclusive growth) และลดความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงบริการเราจะสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ของ อ.ส.ค. มีคุณภาพ หลากหลาย ทั่วถึง แก่ผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ซึ่งนำมาสู่การเลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการ เน้นการทำงานทั้งเชิงรับและเชิงรุก อาทิ การรับและดูแล

/เรื่องร้องเรียน…..

เรื่องร้องเรียนด้านการบริการของผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้ การดำเนินงานในเชิงวิชาการ การถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาขีดความ สามารถด้านอุตสาหกรรมโคนมให้กับเกษตรกรและสหกรณ์ อย่างทั่วถึง ให้สามารถดำเนินการทางธุรกิจและแข่งขันได้ ผมขอย้ำว่านโยบายที่แถลงไปข้างต้นนั้น เป็นรากฐานระยะยาวที่จะผลักดันให้ อ.ส.ค. เข้มแข็งและมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนได้ แต่การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ไม่เพียงแต่จะต้องรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมีหลักการ ทุกฝ่าย/สำนักงาน
จะต้องประสานมือกัน และสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกัน ในขณะเดียวกันผลสัมฤทธิ์เชิงนโยบายที่มุ่งหวัง จะต้อง ถูกกำหนดบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และสร้างความพยายามอย่างต่อเนื่อง ที่จะเข้าถึงเป้าหมายการบริโภคของคนทุกระดับ เพื่อที่จะให้ อ.ส.ค.สามารถยืนหยัดเป็นผู้นำ ด้านอุตสาหกรรมนมได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง

อภิชาต จงสกุล
(นายอภิชาต จงสกุล)
อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน
ประธานกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

[divider]

ดาวน์โหลดแถลงการณ์